โดย Alan Koenigsberg หัวหน้าระดับสากลของ New Payment Flows, Visa Business Solutions
พฤษภาคม 2563
องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกคาดหวังถึงการเข้าถึงการเงินแบบเรียลไทม์ในทั่วโลกได้มากขึ้น พวกเขายังคาดหวังว่าการเงินจะสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องในลักษณะที่เหมาะกับพวกเขาในประเทศและสกุลเงินใด ๆ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการที่ถูกจำกัดโดยข้อจำกัดด้านเขตแดนของประเทศเช่นในอดีต และพวกเขาต้องการให้ธนาคารและสถาบันการเงินที่พวกเขาทำงานด้วยทำให้กระบวนการนี้มีความราบรื่นและต่อเนื่องสำหรับพวกเขา
ปัจจุบัน ถึงแม้จะมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วดังที่เราจะเห็นในฝั่งผู้บริโภคในเรื่องการประมวลผลการชำระเงิน แต่การชำระเงินระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) แบบข้ามพรมแดนก็ยังคงมีความซับซ้อนและยุ่งยาก ซึ่งต้องผ่านตัวกลางหลายรายและมักทำให้เกิดความล่าช้า ไม่สามารถคาดการณ์ระยะเวลาการดำเนินการได้ เครือข่ายการธนาคารตัวแทนแบบดั้งเดิมดำเนินการบนโครงสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่รับรู้อย่างสม่ำเสมอว่าไม่คล่องตัวและไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งโดยทั่วไปจะให้วิสัยทัศน์ที่จำกัดเกี่ยวกับสถานะของธุรกรรม
ในภูมิทัศน์ธุรกิจที่เป็นโลกาภิวัตน์ในปัจจุบัน ธุรกิจทุกขนาดจำเป็นต้องสามารถชำระเงินทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย
นอกจากนี้ การดำเนินการเพื่อรองรับธุรกิจของลูกค้าในช่องทางหรือสกุลเงินใหม่มักจะมีความยุ่งยาก ธนาคารที่ผู้รับชำระไม่สามารถแน่ใจได้ว่าการชำระเงินจะมาถึงเมื่อใดจึงไม่สามารถอัปเดตสถานะให้ลูกค้า/ซัพพลายเออร์ของตนทราบได้ และจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากการคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ในฐานะผู้บริโภค เราสามารถเข้าถึงโอกาสในการชำระเงินแบบเรียลไทม์ได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมการมองเห็นธุรกรรมของเราทั้งหมด แต่สถานะในปัจจุบันของการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบ B2B ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ซึ่งอาจมีหลายขั้นตอนในธุรกรรมการชำระเงินและการมองเห็นและการเข้าถึงมีความไม่แน่นอน ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ จำเป็นต้องเข้าใจว่าเป็นความคาดหวังเชิงตรรกะของบริษัทที่ปรับขนาดได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถนำเสนอบริการหรือโซลูชันของตนได้ทั่วโลก ความต้องการโมเดลและโซลูชันทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีความสามารถในการทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ทันท่วงทีจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนมากขึ้น สถาบันการเงินจำเป็นต้องเริ่มปรับใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจของตนมีวิธีการประมวลผลการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบ B2B ที่ปลอดภัย รวดเร็ว และคาดการณ์ได้ ความจำเป็นนี้เป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงที่เราเห็นในบริบทการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบ B2B
กฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการรู้จักลูกค้าของคุณ (KYC) และการป้องกันการฟอกเงิน (AML) ก็ช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน ระดับความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่เกิดจากการฟอกเงินอาจมีนัยสำคัญในบางประเทศ แต่ความเข้มงวดในการควบคุมและการปฏิบัติตามกฎระเบียบมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ทั่วทั้งยุโรปส่วนใหญ่มีการนำเอาการควบคุม AML มาใช้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม หลายประเทศในแอฟริกา โดยเฉพาะในแอฟริกาเหนือ มีความเสี่ยงที่สูงมาก เนื่องจากการควบคุมมีความเข้มงวดน้อยกว่า ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสสูงกว่าที่เงินจะล่าช้าเนื่องจากปัญหา AML อย่างไรก็ดี แนวทางใหม่นี้ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธนาคารสามารถลดความเสี่ยงจากการฟอกเงินได้ตั้งแต่แรก
เมื่อพิจารณาอุตสาหกรรมในแบบองค์รวม เราเห็นความร่วมมือระหว่างธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญเพราะธนาคารและธุรกิจด้านเทคโนโลยีสามารถแก้ปัญหาความท้าทายด้านการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบ B2B ได้ด้วยการร่วมมือกันเพื่อใช้ทรัพยากรร่วมกัน แบ่งปันแนวคิด และทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เราได้เห็นนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถลดความเสี่ยงและเวลาที่ใช้ในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนขององค์กรโดยการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมจากธนาคารต้นทางไปยังธนาคารผู้รับผลประโยชน์โดยตรง ความปลอดภัยกำลังได้รับการปรับปรุงผ่านทางคุณสมบัติการระบุตัวตนแบบดิจิทัลที่แปลงข้อมูลธุรกิจที่ละเอียดอ่อนขององค์กร เช่น รายละเอียดธนาคารและหมายเลขบัญชี โดยทำให้มีรหัสเฉพาะที่สามารถใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย
ในภูมิทัศน์ธุรกิจที่เป็นโลกาภิวัตน์ในปัจจุบัน ธุรกิจทุกขนาดจำเป็นต้องสามารถชำระเงินทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย
เทคโนโลยีในปัจจุบันกำลังพลิกโฉมเวทีการชำระเงินแบบ B2B อย่างมีนัยสำคัญ และกำลังเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่ผ่านมาเพียงไม่นาน มีเพียงบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่สุดเท่านั้นที่มีความกังวลเกี่ยวกับวิธีชำระเงินและรับเงินทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าโซลูชันการชำระเงินจะมุ่งเป้าไปที่บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ในภูมิทัศน์ธุรกิจที่เป็นโลกาภิวัตน์ในปัจจุบัน ธุรกิจทุกขนาดจำเป็นต้องสามารถชำระเงินทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย
เมื่อความต้องการทางธุรกิจได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เราจะเห็นวิวัฒนาการที่สอดคล้องกันของโซลูชันดิจิทัลในทุกมิติของการชำระเงินนับตั้งแต่การเข้าถึงไปจนถึงการเริ่มต้น นอกจากนี้เรายังคาดการณ์ว่า การชำระเงินทั่วโลกจะยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการด้านทางเลือก ความโปร่งใส และความรวดเร็ว ในทำนองเดียวกัน เราคาดว่าจะเห็นธนาคารและสถาบันการเงินโดยทั่วไปจะเปลี่ยนไปใช้โซลูชันการชำระเงินที่มีวิวัฒนาการเหล่านี้ เนื่องจากพวกเขาต้องการปรับปรุงการให้บริการที่นำเสนอต่อลูกค้าธุรกิจ
ความสามารถทางเทคโนโลยีมีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน มีหลักฐานบ่งชี้มากขึ้นว่า วิสัยทัศน์ในอนาคตของการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนแบบ B2B ทั้งหมดจะเกิดขึ้นในลักษณะที่ง่ายและน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงความฝันลมแล้ง ๆ อีกต่อไป แต่จะกลายเป็นความจริงในที่สุด