โดย Alan Koenigsberg หัวหน้าระดับสากลของ New Payment Flows, Visa Business Solutions
กรกฎาคม 2020
ช่วงเวลาเหล่านี้ถือเป็นการยากที่จะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจโลกในอนาคตเพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ความต้องการประสิทธิภาพทางธุรกิจที่ดีขึ้นและความจำเป็นในการค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพในการสร้างสภาพคล่องนั้นมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา
ปัจจุบันสถาบันการเงินส่วนใหญ่ดำเนินการชำระเงินระหว่างประเทศของการค้าระหว่างธุรกิจทำกับธุรกิจด้วยกัน (B2B) โดยใช้ธนาคารตัวแทนต่างประเทศซึ่งเป็นกระบวนการที่เต็มไปด้วยปัญหาต่าง ๆ ซึ่งทำให้ยากต่อการจัดการสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพในขณะเดียวกันก็ทำให้ค่าใช้จ่ายในการนำส่งการชำระเงินสูงขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 บทความตามที่ Frances Coppola ได้เขียนให้กับนิตยสาร Forbes กล่าวไว้ว่า1 "มันเป็นกระบวนการภายในธนาคารตัวแทนระหว่างประเทศซึ่งต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ส่วนหนึ่งมีสาเหตุเนื่องมาจากข้อกำหนดตามกฎระเบียบ เช่น การรู้จักลูกค้า (KYC)/การตรวจสอบการจัดการสินทรัพย์และหนี้สิน และความแตกต่างของเขตเวลา นอกจากนี้ก็ยังเป็นเพราะธนาคารตัวแทนเองก็มีปัญหาและไม่มีประสิทธิภาพ” แม้จะเป็นพูดที่ดูยั่วยุ ผมก็จะขอโต้แย้งว่าประเด็นดังกล่าวนั้นไม่จำเป็นต้องถูกขับเคลื่อนโดยธนาคาร แต่ควรเป็นจากเป็นกระบวนทัศน์และกระบวนการขับเคลื่อน กระบวนการที่เป็นเส้นตรงซึ่งมีธนาคารสามถึงห้าแห่งทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสามารถปรับปรุงมูลค่าได้ถึงจุดหนึ่งเท่านั้น
เป็นกระบวนการภายในธนาคารตัวแทนเองที่ต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม1
- นิตยสาร Forbes
เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการดำเนินการผ่านธนาคารตัวแทนระหว่างประเทศ เงินที่ผูกไว้ในบัญชี Nostro จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของค่าใช้จ่ายการชำระเงินระหว่างประเทศ การศึกษาล่าสุดพบว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการรักษาบัญชี Nostro สำหรับธนาคารที่ทำการสำรวจมีมูลค่าถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี 2 บัญชี Nostro เหล่านี้จะช่วยเพิ่มปริมาณเงินในภาวะกับดักสภาพคล่องซึ่งธนาคารสามารถนำไปใช้ได้ดีกว่าอย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าจำเป็นต้องใช้แนวทางใหม่ในการชำระเงินระหว่างประเทศของธุรกิจแบบ B2B ซึ่งจะช่วยทำให้ธนาคารสามารถลดกับดักสภาพคล่องและให้บริการลูกค้าองค์กรได้ดีขึ้น
การชำระเงินที่ส่งผ่านเครือข่ายตัวแทนระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึงข้อบกพร่องหลายประการ การดำเนินการชำระเงินระหว่างประเทศโดยใช้ขั้นตอนการการดำเนินการผ่านตัวแทนระหว่างประเทศแบบทวิภาคีในแบบดั้งเดิมนั้นขาดความโปร่งใส เนื่องจากทั้งธนาคารต้นทางและธนาคารผู้รับผลประโยชน์ยังไม่ทราบว่าเงินในการทำธุรกรรมอยู่ ณ จุดใดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เนื่องจากธุรกรรมถูกส่งผ่านธนาคารตัวแทนหลายแห่ง การรู้ว่าจะมีการชำระเงินเมื่อใดหรือจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยพื้นฐานไม่สามารถจะระบุได้
เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องนี้ SWIFT ได้เปิดตัวบริการ Global Payments Initiative (GPI) ซึ่งมอบความโปร่งใสที่จำเป็นอย่างมากกับการชำระเงินที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการผ่านธนาคารตัวแทนระหว่างประเทศ แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงขาดความสามารถในการคาดการณ์การชำระเงินอยู่ หากปราศจากความสามารถในการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าก็เป็นเรื่องท้าทายที่จะทราบว่าค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX) จะเป็นเท่าใด นอกจากนี้ในแบบแผนปัจจุบัน ธนาคารต้นทางจะต้องรักษาความสัมพันธ์กับธนาคารตัวแทนไว้หลาย ๆ แห่งเพื่อเติมเต็มสกุลเงินจำนวนมากในประเทศที่ลูกค้าของตนทำธุรกรรมอยู๋ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความไร้ประสิทธิภาพมากขึ้น
หากปราศจากความสามารถในการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าก็เป็นเรื่องท้าทายที่จะทราบว่าค่าธรรมเนียม FX จะเป็นเท่าใด
นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ กำลังเข้ามาสู่ตลาดโดยให้สัญญาว่าจะช่วยในการปรับปรุงสภาพคล่องสำหรับธนาคารให้ดีขึ้น เครือข่ายที่เกิดขึ้นใหม่กำลังใช้เทคโนโลยีในอนาคต เช่น โครงสร้างพื้นฐานของระบบบัญชีแยกประเภทแบบกระจายที่สามารถอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินบนเครือข่ายส่วนตัวที่ได้รับอนุญาต และมีความมั่นคงปลอดภัยอย่างสูง เครือข่ายการชำระเงินแบบ end-to-end ดังกล่าวช่วยลดความซับซ้อนของการดำเนินการชำระเงินระหว่างประเทศได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยปลดล็อกกับดักสภาพคล่อง ด้วยการใช้วิธีการชำระบัญชีแบบพหุภาคีและทวิภาคี ธนาคารต้นทางจึงไม่มีความจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์กับตัวแทนธนาคารหลายแห่งเพื่อดำเนินการชำระเงินในสกุลเงินและประเทศที่แตกต่างกันอีกต่อไป ธนาคารต้นทางสามารถนำส่งการชำระเงินโดยตรงไปยังธนาคารผู้รับผลประโยชน์ในเครือข่ายการชำระเงินได้ ผ่านความสัมพันธ์ที่จุดเดียว B2B Connect ของ Visa เป็นตัวอย่างหนึ่งของเส้นทางใหม่ที่มีการชำระการซื้อขายแบบยอดสุทธิ การหักบัญชีแบบพหุภาคี และมีกฎง่าย ๆ ที่ให้แนวทางที่รวดเร็วและตรงประเด็นมากขึ้นซึ่งจะช่วยลดการหยุดชะงัก ความไม่ลงรอยกัน และข้อบกพร่องต่าง ๆ โดยที่รับประกันการนำส่งการชำระเงินเต็มมูลค่า
ประโยชน์ของการเข้าถึงสภาพคล่องของเครือข่ายสามารถขยายออกไปได้มากกว่าแค่ธนาคารต้นทาง เมื่อธนาคารส่งคำสั่งการชำระเงิน และครอบคลุมข้อผูกพันกับเครือข่ายดังกล่าว เงินเหล่านั้นก็จะมีไว้ให้ธนาคารผู้รับผลประโยชน์แทบจะในทันที
แนวทางการชำระเงินระหว่างประเทศรูปแบบใหม่นี้มีประโยชน์ในด้านสภาพคล่องที่ครอบคลุมห่วงโซ่การทำธุรกรรมในวงกว้าง ธนาคารภายในเครือข่ายเองก็สามารถจัดการการชำระเงิน FX ทั้งหมดได้อย่างสะดวกในขณะที่ได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ธนาคารต้นทางยังสามารถเพิ่มปริมาณเงินในภาวะกับดักสภาพคล่องที่อยู่ในบัญชี Nostro กับธนาคารตัวแทนระหว่างประเทศได้ง่ายขึ้น ด้วยการขจัดความจำเป็นในการใช้ Nostros หลายบัญชีออกไป ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมได้เพิ่มอีก
การชำระเงินระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพผ่านโครงสร้างความสัมพันธ์พหุภาคีที่เอาชนะข้อจำกัดของแนวทางเครือข่ายตัวแทนแบบทวิภาคีรูปแบบดั้งเดิม ให้ผลประโยชน์ด้านสภาพคล่องที่น่าสนใจซึ่งยากที่จะเพิกเฉย การนำเอาเรื่องเครือข่ายมาใช้กับการชำระเงินระหว่างประเทศที่มีมูลค่าสูงถือเป็นคำมั่นสัญญาในการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่ธนาคารจะจัดการกับสถานะสภาพคล่องของตน
วิธีการในการชำระเงินระหว่างประเทศแบบ B2B ที่มีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วและสง่างามนี้เป็นวิธีการที่ธนาคารควรให้ความสนใจและคุ้มค่าในการพิจารณาอย่างละเอียด