เทคโนโลยีโทเคนของวีซ่า เพิ่มมูลค่าให้การค้าดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิกกว่า 2 พันล้านดอลลาร์
08/02/2024
ธุรกรรมดิจิทัลบูม เอื้อให้บริการโทเคนของวีซ่าเข้ามาสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นให้แก่ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการอนุมัติการชำระเงินแล้ว ยังช่วยลดการฉ้อโกงได้อีกด้วย
วีซ่า เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียแปซิฟิกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐ1 ในปี 2567 อันเป็นผลจากการยอมรับการใช้งานบริการวีซ่าโทเคน (Visa Token Service (VTS)) ความสำเร็จนี้ตอกย้ำถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและคุณค่าที่โทเคนนำมาส่งเสริมการค้าดิจิทัล ทั้งส่วนของหน้าร้านและออนไลน์ ด้วยจำนวนโทเคนที่เกิดขึ้นมากถึงหนึ่งพันล้านครั้งในเอเชียแปซิก2
VTS คือบริการของวีซ่าที่สร้างรหัสเฉพาะที่เรียกว่า “โทเคน (Token)” เพื่อใช้แทนชุดข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่นตัวเลขหน้าบัตร 16 หลัก ซึ่งมีเพียงวีซ่าเท่านั้นที่จะสามารถปลดล็อกรหัสดังกล่าวได้ โดยวีซ่าโทเคนจะรักษาความปลอดภัยให้กับการชำระเงินของผู้ถือบัตร ด้วยการแปลงข้อมูลบัญชีให้กลายเป็นโทเคน แล้วนำโทเคนไปใช้ในการทำธุรกรรมต่อไป นอกจากจะเป็นการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว โทเคนยังช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการอนุมัติธุรกรรมชำระเงิน และลดอัตราการฉ้อโกงลงได้อีกด้วย ประโยชน์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การชำระเงินที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภค
นอกจากนี้ โทเคน ยังสามารถยกระดับการประมวลผลการชําระเงิน เพราะสามารถควบคุมและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้มากขึ้นในแต่ละธุรกรรม พัฒนาการเทคโนโลยีของวีซ่าลดอัตราที่ธุรกรรมที่ถูกต้องจะถูกปฏิเสธ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของวีซ่าพบว่าร้านค้าที่ใช้บริการ VTS สำหรับการชำระเงินแบบดิจิทัล จะมีอัตราความสำเร็จหรือรับอนุมัติการชำระเงินสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นราวสองพันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่อัตราการฉ้อโกงลดลงมากกว่าครึ่ง (58%)3
“ผู้บริโภค และผู้ประกอบการต่างคาดหวังให้การชำระเงินมีความปลอดภัย ไร้รอยต่อ และโทเคนคือเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนเกมในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะนอกจากจะช่วยให้อัตราการอนุมัติธุรกรรมที่ถูกต้องเพิ่มขึ้นแล้ว ยังสามารถลดการฉ้อโกงได้อีกด้วย ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ร้านค้าสามารถใช้เวลาและทรัพยากรอันมีค่าไปกับการพัฒนาธุรกิจและเข้าหาลูกค้าของตนเองได้มากขึ้น ในฐานะเครือข่ายการชำระเงินชั้นนำของโลกเราสนับสนุนให้ร้านค้าใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วว่าส่งผลตรงต่อยอดขายและผลกำไรของพวกเขา” เพรวิน พิลเลย์ หัวหน้าฝ่ายขายและบริการรับชำระเงินสำหรับร้านค้าของวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว
วีซ่า ยังคงเดินหน้าขยายประสบการณ์การชำระเงินใหม่ๆ เพื่อให้ข้อมูลประจำตัวแบบโทเคนสามารถนำมาใช้งานในสภาพแวดล้อมบนโลกออนไลน์ที่หลากหลาย ด้วยโทเคนลูกค้าไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลหมายเลขบัตร 16 หลักของตัวเองทุกครั้งที่ชำระเงินออนไลน์ หรือวุ่นวายกับการอัปเดตข้อมูลบัตรบนหลายๆ แพลตฟอร์มเมื่อถึงเวลาที่บัตรหมดอายุหรือต้องเปลี่ยนใบใหม่ ในทำนองเดียวกัน VTS ยังทำให้มั่นใจได้ว่าร้านค้าสามารถอัปเดตข้อมูลการชำระเงินของลูกค้าได้อย่างปลอดภัยบนแพลตฟอร์มของวีซ่า และยังเป็นวิธีการชำระเงินที่ไร้รอยต่อและราบรื่นสำหรับลูกค้าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินผ่านสมาร์ตโฟน อุปกรณ์สวมใส่ หรืออุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ
“เทคโนโลยีโทเคนของวีซ่า เป็นการปูทางสู่โลกการค้าแห่งอนาคต นวัตกรรมการชำระเงินนี้สามารถปลดล็อกประสบการณ์ใหม่ๆ และส่งมอบความเฉพาะตัวของผู้ถือบัตรได้เหนือกว่าที่บัตรชำระเงินแบบปกติทั่วไปทำได้ และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง และร่วมมือกับคู่ค้าและร้านค้าในการยกระดับระบบนิเวศการชำระเงินดิจิทัลต่อไป” ทีอาร์ รามจันทรัน หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันของวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่การทำธุรกรรมด้วยโทเคนของวีซ่า ได้ที่นี่
___________________________________________
1 ปริมาณการชำระเงินที่ประมวลผลโดยใช้ข้อมูลโทเคนบนเครือข่าย VisaNet ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในหนึ่งปีตั้งแต่มกราคม ถึงธันวาคม 2566 คูณด้วยจำนวนการอนุมัติการชำระเงินที่เพิ่มขึ้น
2 จำนวนของโทเคนที่ออกโดยระบบวีซ่าร่วมกับผู้ออกบัตรที่ได้รับอนุญาติในเอเชียแปซิฟิก เมื่อเดือนมีนาคม 2567
3 Visa Risk Datamart, Global, FY22 Q1–Q4 Token Fraud Rate vs PAN Fraud Rate โดย ค่าตอบแทน (PV) สำหรับร้านค้าด้วยจำนวนธุรกรรมที่ไม่แสดงบัตร (CPN) มากกว่า 1,000 ครั้งต่อเดือนต่อประเทศ ผลลัพธ์ส่วนบุคคลของร้านค้าอาจแตกต่างกัน
เกี่ยวกับวีซ่า
Visa (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก วีซ่าให้บริการในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างผู้บริโภค ร้านค้า สถาบันการเงิน และหน่วยงานภาครัฐมากกว่า 216 พันล้านรายการต่อปี ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้ สะดวก และปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ผู้บริโภค ร้านค้า และเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจที่รวมทุกคนในทุกที่เข้าด้วยกัน จะช่วยยกระดับทุกคนในทุกที่ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ Visa.com