การท่องเที่ยวฟื้นตัว วีซ่าเดินหน้าดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ

05/15/2015

วีซ่าเตรียมพร้อมแคมเปญ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลล์หลังจากประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ปริมาณการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวทั้งหมดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 และการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวไทยภายในประเทศเพิ่มสูงถึงร้อยละ 22

ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา วีซ่าได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นแก่คุณแอนนา สุนกีโอ (ด้านซ้าย) และคุณญาน ยิงชาญ (ด้านขวา) นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย คุณแอนนาคือผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลแพคเกจ”ท่องเที่ยวไทย 365 วัน (Travel 365 days in Thailand)” ซึ่งเป็นโปรโมชั่นที่จัดขึ้นระหว่างแคมเปญ อะเมซซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลล์ ของปีที่ผ่านมาสำหรับผู้ถือบัตรวีซ่าชาวต่างชาติและชาวไทยอย่างละรางวัล สำหรับแพคเก็จรางวัลนี้ คุณแอนนายังได้รับสิทธิพาเพื่อนหนึ่งคนมาเที่ยวประเทศไทยถึง 10 วันในแต่ละเดือนตลอดทั้งปีพร้อมกับตั๋วเครื่องบินแบบไป-กลับจากการบินไทยและห้องพักที่เซ็นทาราโฮเทลแอนด์รีสอร์ท

กรุงเทพฯ, วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วีซ่าเผยผลตอบรับจากแคมเปญอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลล์ในปี พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมานั้นดีเกินคาดหมาย  เพราะมีการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวเยอรมัน และการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ

การเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าโดยรวมที่สูงขึ้นถึงร้อยละ 15  ประกอบกับการใช้จ่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ตามลำดับ การจับจ่ายใช้สอยที่โตไปในทิศทางที่ดีเช่นนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จของการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยผ่านแคมเปญอะเมซซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลล์ ซึ่งสำหรับปีนี้โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน – 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558 แคมเปญในปีนี้ยังจัดขึ้นในโอกาสครบรอบ 17 ปีของความร่วมมือระหว่างวีซ่าและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

แม้ว่าอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะไม่แน่นอน โดยเฉพาะในบรรดาประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ประกอบกับวิกฤติเงินรูเบิลของประเทศรัสเซียที่อ่อนค่าลง (Russian Rouble) รวมถึงแนวโน้มปัญหาทางการเมืองอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทยก็ได้แสดงให้เห็นถึงความแข้มแข็งของการฟื้นตัวที่ดีและรวดเร็วภายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากกรมการท่องเที่ยวเผยว่านักท่องเที่ยวได้หลั่งไหลเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนธันวาคมในปีที่ผ่านมาด้วยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.8 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา[1] ประเทศไทยยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งไปจนถึงไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 ข้อมูลจากศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยให้เห็นถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางเข้ามาเที่ยว และพักผ่อนในประเทศไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายนที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองสูงถึงร้อยละ 25.3 และร้อยละ 66.8 ตามลำดับจากปีที่ผ่านมา[2]

นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการวีซ่าประจำประเทศไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับประเทศไทย และเป็นหนึ่งในรายได้หลักของวีซ่า เราจึงสนับสนุน และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยจำนวนของนักท่องเที่ยวที่ทยอยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยถึงแม้ว่าจะเกิดผลกระทบต่างๆ ขึ้นทั่วโลกก็ตาม วีซ่ายังคงสนับสนุนและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวหน้าของโลกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น เรา ด้วยฐานผู้ถือบัตรวีซ่าหลายล้านคนทั่วโลก วีซ่าภูมิใจที่มีส่วนส่งเสริมการเติบโตด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเป็นภาคีที่ดีของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ วันนี้เรายังคงตั้งหน้าตั้งตาให้การต้อนรับแก่นักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น”

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จับจ่ายใช้สอยมากที่สุดที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 2557 ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวเยอรมันด้วยจำนวนเงินสะพัดที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14 และร้อยละ 13 ตามลำดับ นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวเหล่านี้แล้วนักท่องเที่ยวภายในประเทศยังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวโดยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยภายในประเทศกันเองที่ใช้จ่ายมากถึง จำนวนถึงร้อยละ 22 เมื่อเทียนกับปี พ.ศ. 2556  ด้วยอานิสงส์นโยบายรัฐบาลที่อนุญาตให้ภาคเอกชนสามารถคืนภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ อาทิ ค่าตั๋วเครื่องบินและที่พัก เป็นต้น

ข้อมูลการของวีซ่ายังบอกถึงความนิยมชมชอบสำหรับในการใช้จ่ายเงินที่แตกต่างกันของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง เช่น นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นส่วนมากต่างก็นิยมใช้เงินไปกับกลุ่มร้านอาหาร คิดเป็นร้อยละ 16 จากจำนวนการใช้จ่ายทั้งหมด ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ออสเตรเลียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะให้ความสนใจต่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) ด้วยจำนวนร้อยละ 11 ร้อยละ 17 และร้อยละ 18 ตามลำดับของการใช้จ่ายทั้งหมด ด้านนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวรัสเซียก็นิยมใช้จ่ายไปกับสินค้าลักชัวรี่ และแบรนด์เนมคิดเป็นร้อยละ 10

ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและชาวยุโรปพบว่ามีแนวโน้มการใช้เงินสดสำหรับการใช้จ่ายที่สูงกว่า แม้ว่าจะมาจากตลาดที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างแพร่หลายมากกว่าก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์และชาวญี่ปุ่นนิยมใช้จ่ายผ่านเงินสดน้อยที่สุด โดยการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มคิดเป็นจำนวนเงินค่าใช้จ่ายแค่ ร้อยละ 2 และ 5 ตามลำดับเท่านั้น และนิยมใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า ด้านนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษและชาวอเมริกันนิยมถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มเป็นมากที่สุดคิดเป็นจำนวนเงินค่าใช้จ่ายถึง ร้อยละ 14 และ15 ตามลำดับ

นอกจากการจัดประเภทการใช้จ่ายดังกล่าวแล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมท่องเที่ยวไปในแต่ละเมืองใหญ่ของประเทศไทยไม่เหมือนกันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นส่วนมากนิยมเที่ยวกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและชาวจีนนิยมเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียนิยมเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสและชาวอังกฤษนิยมเที่ยวเกาะสมุย

 “วีซ่าได้นำเสนอสิ่งใหม่ ๆ และหลากลายแก่ร้านค้ารวมถึงจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย และยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มจุดรับบัตร เพื่อให้ผู้ถือบัตรได้รับความสะดวกสบายสำหรับการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ วีซ่าไม่หยุดที่จะพัฒนานวัตกรรม และความปลอดภัยของระบบชำระเงินเพื่อเป็นทางเลือกแรกๆของการชำระเงินหลักแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติมีประสบการ์ณท่องเที่ยวที่ดี เช่นเดียวกับหลายปีที่ผ่านมา เราภูมิใจที่เป็นตัวเชื่อมต่อธุรกิจการท่องเที่ยวไทยกับนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ เราไม่หยุดที่จะนำสิทธิพิเศษที่น่าสนใจสำหรับผู้ถือบัตรทุกท่าน เราหวังเป็นอย่างยิ่งเราจะมอบเหตุผลที่ดียิ่งขึ้นแก่นักท่องเที่ยวและเพื่อนชาวไทยในการใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าตลอดแคมเปญอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลล์ที่จะถึงนี้” นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ กล่าวเพิ่มเติม

 


[1]    สถิตินักท่องเที่ยว 2014 จากกรมการท่องเที่ยว ดูรายละเอียดได้ที่  http://www.tourism.go.th/home/details/11/221/23044
[2]    ข้อมูลสรุปจำนวนผู้โดยสาร ณ วันที่ 1 – 26 เมษายน 2558 จากศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดูรายละเอียดได้ที่ http://marketingdb.tat.or.th/tat-web-portal-01

 

เกี่ยวกับวีซ่า

วีซ่าคือบริษัทผู้ให้บริการด้านเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก แก่ลูกค้าบุคคล ธุรกิจ และสถาบันการเงิน ตลอดจนองค์กรรัฐ ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีด้านเงินตราดิจิตอลที่รวดเร็ว ปลอดภัย และวางใจได้ โดยมี VisaNet หนึ่งในระบบเครือข่ายการทำงานด้านเงินตราดิจิตอลที่ทันสมัยมากที่สุดระบบหนึ่งของโลกเป็นรากฐาน ซึ่งสามารถประมวลและควบคุมการทำธุรกรรมได้กว่า 56,000 รายการในหนึ่งวินาที พร้อมด้วยระบบป้องกันการปลอมแปลงสำหรับลูกค้าบุคคล และการรับประกันการชำระเงินสำหรับร้านค้า วีซ่าไม่ใช่ธนาคารและมิได้มีบริการการออกบัตร เพิ่มวงเงินเครดิต หรือกำหนดอัตราค่าบริการแก่ผู้ถือบัตร หากแต่ให้บริการนวัตกรรมซึ่งส่งเสริมให้สถาบันการเงินสามารถมอบทางเลือกที่มีความหลากหลายให้แก่ลูกค้าได้ เช่น บริการชำระเงินจากยอดเงินในบัตรเดบิต หรือการใช้จ่ายด้วยวงเงินล่วงหน้าผ่านผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตต่าง ๆ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่า อ่านได้ที่: http://www.visa.co.th และ@VisaNews บนทวิตเตอร์